เนื่องจากสุขภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ดังนั้นการส่งเสริมสุขภาพลูกน้อยเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดโรคต่างๆ อันอาจกระทบกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อย รวมถึงกระทบสภาพจิตใจของทั้งลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่เอง หนึ่งในการส่งเสริมสุขภาพคือการรับวัคซีนของลูกน้อย ซึ่งจัดว่าเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ง่าย ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ลูกน้อยจะได้รับวัคซีนหลายชนิดตั้งแต่แรกคลอดจนโต วัคซีนจัดเป็นยาชนิดหนึ่ง การรับวัคซีนย่อมมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงหรือเกิดการแพ้ได้เช่นเดียวกับยาทั่วไป หากแต่ผลข้างเคียงนี้นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับอันตรายและความรุนแรงที่เกิดจากการติดเชื้อโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
.
ชนิดและผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากได้รับวัคซีนมี ดังนี้ (เฉพาะวัคซีนที่ใช้บ่อย)
.
1. วัคซีนวัณโรค BCG
ให้ตั้งแต่แรกเกิด ฉีดชั้นใต้ผิวหนังที่ตำแหน่งหัวไหล่หรือสะโพก
ผลข้างเคียง หลังฉีดจะมีตุ่มนูน 6-8 มม. และหายไปในไม่ช้า จากนั้น 2 สัปดาห์ ตุ่มจะนูนแดงและแตกเป็นแผลมีหนอง อาจเป็นๆ หายๆ ถึง 6 สัปดาห์จึงหายไป และเหลือเป็นรอยแผลเล็กๆ แทน อาจพบต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงโต (ใต้รักแร้หรือขาหนีบ) หรือกระดูกอักเสบได้
.
2. วัคซีนตับอักเสบบี HBV (HepatitisB)
ให้ครั้งแรกตอนแรกเกิด จากนั้นให้ที่อายุ 1-2 เดือน และ 6 เดือน
ผลข้างเคียง พบน้อยมากอาจมีอาการเจ็บแสบขณะฉีด หรือไข้ต่ำๆ (อาจพบอาการแพ้รุนแรงได้แต่น้อยพบเพียง1ในล้านเท่านั้น)
.
3. วัคซีนโปลิโอ Polio เริ่มให้อายุ 2 เดือนขึ้นไป มี 2 ชนิด
ชนิดหยด ผลข้างเคียง อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาตคล้ายโรคโปลิโอได้ (พบ 1.4-3.4 ต่อล้านโด๊ส)
ชนิดฉีด ซึ่งผสมรวมกับวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก ผลข้างเคียงตามวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก
.
4. วัคซีนคอตีบไอกรนบาดทะยัก DTP (Diphtheria, Pertussis, Tetanus)
เริ่มให้อายุ 2 เดือนขึ้นไป มี 2 ชนิด ชนิดเต็มเซลล์ (DTPw) และชนิดไร้เซลล์ (DTPa)
ผลข้างเคียง ชนิดเต็มเซลล์ จะพบมากกว่า ชนิดไร้เซลล์ ทั้งเรื่องไข้ ปวดบวม ฝีปราศจากเชื้อบริเวณที่ฉีด และอาเจียน
ผลข้างเคียงที่รุนแรงของชนิดเต็มเซลล์ คือ ชักภายใน 3 วัน ร้องกวนไม่หยุดมากกว่า 3 ชั่วโมง ภายใน 2 วัน ตัวอ่อนปวกเปียก ภายใน 2 วัน ไข้มากกว่า 40.5 องศาเซลเซียส และแพ้วัคซีนทั้งแบบรุนแรงเฉียบบพลัน หรือแพ้ชนิดบวมแดงเฉพาะที่อย่างมาก ควรเปลี่ยนมาใช้ชนิดไร้เซลล์แทน
.
5. วัคซีนเยื่อหุ้มสมองอักเสบฮิบ Hib (Haemophilus influenzae B)
มักผสมรวมกับวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก
ผลข้างเคียง ตามวัคซีนป้องกันคอตีบไอกรนบาดทะยัก หากฉีดตัวเดียวอาจพบอาการไข้ต่ำๆ ปวดบวมแดง อาการมักไม่รุนแรงและไม่เกิน 24 ชั่วโมง
.
6. วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม MMR (Measles, Mumps, Rubella)
เริ่มฉีดเข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือน เข็มกระตุ้นนั้นอาจมีเปลี่ยนตามอุบัติการณ์ของโรคในประเทศไทย ในปี พ.ศ.2557 ทางอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้ปรับอายุที่กระตุ้นเป็น 2 ปีครึ่ง ถ้าฉีดเข็มแรกที่อายุ 9 เดือน หากเข็มแรกให้อายุ 12 เดือนก็กระตุ้นที่อายุ 4-6 ปี
ผลข้างเคียงพบน้อย อาจพบไข้ต่ำๆ ผื่นแดง ต่อมน้ำเหลืองโต ต่อมน้ำลายโต พบใน 5-12 วัน ชักจากไข้สูง อาการทางสมอง (สมองอักเสบ) ปวดตามข้อ (โดยเฉพาะในวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่) แพ้ยาแบบเฉียบพลัน และอาจพบภาวะเกร็ดเลือดต่ำกว่าปกติชั่วคราวทำให้มีอาการเลือดออกผิดปกติได้
.
7. วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี JEV (Japanese encephalitis virus)
มี 2 ชนิด คือ แบบเชื้อตาย ซึ่งเพาะเลี้ยงใน สมองหนู ฉีด 3 ครั้งช่วงอายุ 1-2ปี ทางสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแนะนำให้กระตุ้นอีก 1 เข็มที่อายุ 4-5 ปี อีกชนิด คือ แบบเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง ให้เข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือนขึ้นไป และกระตุ้นหลังจากนั้นอีก 3-12 เดือน
ผลข้างเคียง ไข้ (ร้อยละ 10) ปวด บวมแดง ขณะฉีด (ร้อยละ 20)
.
8. วัคซีนตับอักเสบเอ HAV (HepatitisA)
ฉีดอายุ 1 -2 ปีขึ้นไป 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน
ผลข้างเคียง ปวด บวม เจ็บแสบ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร 1-2 วันแรก
.
9. วัคซีนอีสุกอีใส Varicella
ฉีดอายุ 1 ปีขึ้นไป กระตุ้นเข็ม 2 ที่อายุ 4-6 ปี กรณีที่มีการระบาดอาจฉีดเข็ม 2 ก่อนได้โดยอายุน้อยกว่า 13 ปี ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 3 เดือน ถ้าอายุมากกว่า 13 ปี ห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 1 เดือน
ผลข้างเคียง บวม เจ็บแสบ ไข้ต่ำๆ อาจพบผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใสเล็กน้อย ภายใน 5-26 วัน
.
10. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ Influenza
เริ่มฉีดที่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ฉีดทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เฉพาะอายุ ต่ำกว่า 9 ปี ในปีแรกให้ 2 เข็มในห่างกัน 1 เดือนง
ผลข้างเคียง ไข้ พบน้อยในเด็กต่ำกว่า 13 ปี พบภายใน 6-24 ชั่วโมง อาจพบอาการแพ้เฉียบพลันได้ในคนที่มีการแพ้ไก่หรือไข่แบบรุนแรง และพบอาการปลายประสาทอักเสบเฉียบพลัน (Guillain-Barre syndrome) ได้ 1 ในล้าน
.
11. วัคซีนโรต้า Rotavirus ใช้หยอดทางปาก เริ่มที่อายุ 2 เดือน
ผลข้างเคียง ไข้ เบื่ออาหาร อาเจียน งอแง ถ่ายเหลว
.
12. วัคซีนนิวโมคอคคัส Pneumococcus ฉีดที่อายุ 2 เดือนขึ้นไป
ผลข้างเคียง ไข้ ปวด บวม แดง
.
การปฏิบัติตัวสำหรับการรับวัคซีน
1. ควรนำสมุดบันทึกวัคซีนมาด้วยทุกครั้ง
2. ไม่ควรรับวัคซีนขณะที่มีไข้สูง หรือเจ็บป่วยเฉียบพลัน การเป็นหวัด ท้องเสียโดยไม่มีไข้สามารถรับวัคซีนได้
3. หลังรับวัคซีนควรอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย10นาทีเพื่อดูปฏิกิริยาแพ้ยาแบบเฉียบพลัน เช่น ผื่นขึ้น หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ หมดสติเป็นต้น
4. หากมีอาการไข้ ปวดศีรษะปวดเมื่อย สามารถทานยาลดไข้แก้ปวดพาราเซ็ตตามอลได้ ถ้าไม่แพ้ยา
5. หากมีอาการปวด บวม ภายใน 24ชั่วโมงแรก ให้ใช้ผ้าเย็นประคบ เพื่อลดเลือดไหลเวียนมาบริเวณนั้น อาการบวมจะลดลง
6. หากมีอาการบวมแดง ต้องประเมินว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ถ้าเป็นฝีควรปฏิบัติ ดังนี้
⦿ ฝีจาก BCG ทำความสะอาดด้วย 70%alcohol หรือน้ำสะอาดที่ต้มสุก
⦿ ฝีต่อมน้ำเหลืองจาก BCG ควรพบแพทย์
⦿ ฝีจากคอตีบไอกรนบาดทะยัก มักเป็นฝีไม่มีเชื้อ ช่วงบวมแดงอาจประคบเย็นหากไม่ดีขึ้นหรือขนาดใหญ่ขึ้นให้พบแพทย์
7. หลังรับวัคซีนโดยเฉพาะเด็กโตอาจมีอาการหน้ามืดเป็นลม ให้นั่งนิ่งๆ อยู่กับที่หรือนอนราบอย่างน้อย 15 นาทีหรือจนอาการดีขึ้น
8. หากไม่สามารถมาตามนัดที่ฉีดได้ สามารถเลื่อนออกได้ (แนะนำว่าไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์)
9. หากเคยฉีดยาแล้วมีอาการแพ้ยา หรือมีอาการแพ้ไข่หรือไก่แบบรุนแรง กรุณาแจ้งกุมารแพทย์หรือ เจ้าหน้าที่ทราบด้วย
.
ข้อมูลทั้งผลข้างเคียงและการปฏิบัติตัวหลังรับวัคซีนนี้เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูกน้อยในการมารับวัคซีนเพื่อส่งเสริมสุขภาพแก่ลูกน้อยของท่าน
.
บทความจาก >> โรงพยาบาลธนบุรี 2