เทคนิคการเรียนออนไลน์

ในช่วงวิกฤตแบบนี้ เราจะเห็นได้ว่าเทรนด์การเรียนออนไลน์กำลังได้รับความนิยมกันอย่างมาก แต่เมื่อการเรียนออนไลน์ที่บ้าน มันไม่ง่ายอย่างที่คิด  เราจึงขอรวบรวมเทคนิคที่ได้รับการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว ว่าจะช่วยให้คุณสามารถเรียนคอร์สออนไลน์ด้านต่างๆ ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

.

1. ตั้งเป้าหมายการเรียนในแต่ละวัน

การตั้งเป้าหมายในแต่ละวันช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจที่ดีในการเรียน ซึ่งคุณควรตั้งเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงและวัดผลได้จริง และไม่ควรตั้งเป้าหมายต่อวันให้มากเกินไป

.

2. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียน

สภาพแวดล้อมมีผลต่อการเรียนรู้ของคนเรามาก ถ้าสถานที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนจะช่วยให้คุณมีสมาธิ จดจำข้อมูลต่างๆ ได้ดีและสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคุณควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับการนั่งเรียน หลีกเลี่ยงการนั่งเรียนบนโซฟาหรือเตียง แบ่งแยกสถานที่สำหรับใช้ในการเรียนกับสถานที่สำหรับใช้ในการพักผ่อนออกจากกันให้ชัดเจน

.

3. จัดตารางเวลาเรียน

กางปฏิทินของคุณออกมาจัดลำดับความสำคัญให้ดี เลือกช่วงเวลาที่คุณมั่นใจว่าจะสามารถเรียนหรือทำแบบฝึกหัดได้อย่างต่อเนื่องที่สุดและทำมันอย่างจริงจัง ไม่ให้มีสิ่งใดมารบกวนระหว่างการเรียน

.

4. สร้างข้อผูกมัดให้กับตัวคุณเอง

การบอกเพื่อนๆ เกี่ยวกับคอร์สที่คุณกำลังเรียนอยู่ โพสต์สิ่งที่คุณทำได้สำเร็จลงบนโซเชียลมีเดียของคุณ หรืออาจจะเขียนบล็อกสรุปเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน เพื่อให้กลุ่มเพื่อนๆ หรือครอบครัวคอยติดตามและช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนการเรียนรู้ของคุณ

.

5. คอยจดโน้ตเวลาเรียน

การจดโน้ตจะช่วยให้สมองของคุณมีการคิดอยู่ตลอดเวลา ทำให้เข้าใจบทเรียนเร็วขึ้น และช่วยให้จดจ่อกับสิ่งที่เรียนนานยิ่งขึ้น ซึ่งนี่เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่จะทำให้คุณมีสมาธิกับสิ่งที่เรียนไม่ว่าคุณจะเรียนผ่านช่องทางออนไลน์หรือเรียนในห้องเรียน

.

6. ตั้งกระทู้พูดคุยจากสิ่งที่ได้เรียนรู้

การสร้างกรุ๊ปพูดคุยสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนจะทำให้คุณสามารถถามคำถามเกี่ยวกับการบ้าน หัวข้อที่เรียน แชร์เทคนิคและไอเดียซึ่งกันและกันได้ดี นอกจากนี้มันอาจจะเพิ่มเติมอาจจะช่วยเพิ่มความรู้ใหม่ๆ อย่างไม่รู้ตัว

.

7. ทำทีละอย่าง

มีผลสำรวจจากนักวิจัยมากมายที่พิสูจน์แล้ว ว่าการที่เราทำหลายๆ อย่างพร้อมกันจะทำให้เราไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อได้ เพราะฉะนั้นคุณควรจะโฟกัสทีละอย่าง เพื่อที่จะซึมซับข้อมูลและทำมันออกมาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

.

8. พักเบรกบ้าง

หากสมองคุณล้าแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฝืน เพราะยิ่งพยายามเท่าไหร่สมองก็ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังเรียนรู้ได้อยู่ดี คุณควรจะหยุดและพักสมองเป็นระยะๆ เพื่อให้สมองผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าบ้าง และหลังจากพักแล้วสมองจะกลับมามีพลังและค้นพบไอเดียใหม่ๆ อีกครั้ง

.

บทความจาก >> HUBBA

#คลินิกเด็กหมอนุจรินทร์หาดใหญ่
#เด็กเลี้ยงง่ายสบายท้องสมองดี
#คลินิกเด็กดีเติบโตสมวัย #ใส่ใจลูกน้อยด้วยใจ
#อบอุ่นเมื่อได้คุยกัน #คลินิกหมออ้อใจดีมีคำตอบ
#ลูกน้อยห่างไกลภูมิแพ้ #เด็กเติบโตสมวัยพัฒนาการดี 
#ดูแลลูกน้อยด้วยหัวใจ #หมออ้อใจดีคุยด้วยแล้วสบายใจ
#วัคซีนมือเบาเพื่อลูกน้อย #คลินิกเด็กที่ดูแลทั้งครอบครัว

#อบอุ่นเมื่อได้คุยกัน
#ใส่ใจลูกน้อยด้วยใจ
#ดูแลลูกน้อยด้วยหัวใจ
#ลูกน้อยห่างไกลภูมิแพ้
#คลินิกเด็กดีเติบโตสมวัย
#วัคซีนมือเบาเพื่อลูกน้อย
#คลินิกหมออ้อใจดีมีคำตอบ
#เด็กเติบโตสมวัยพัฒนาการดี
#คลินิกเด็กที่ดูแลทั้งครอบครัว
#เด็กเลี้ยงง่ายสบายท้องสมองดี
#หมออ้อใจดีคุยด้วยแล้วสบายใจ
#คลินิกเด็กหมอนุจรินทร์หาดใหญ่

แชร์บทความนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง